The Eastern Region 4 guidelines for developing work motivation to improve the efficiency of Kasikorn Bank employees' work performance

Abstract

The purpose of this research were: 1) To study the personal factors of Kasikorn Bank employees in the Eastern Region 4 2) To study the motivational approach that effects to the work performance of Kasikorn Bank employees in the Eastern Region 4 3) To compare the difference of motivational approaches to work the effect the work performance of Kasikorn Bank employees in the Eastern Region 4 classified by the employees personal factors. The research sample consisted of 120 juristic entities of Kasikorn Bank employees in the Eastern Region 4. The data were collected from July 2024 to October 2024. The data were collected through a survey questionnaire. The statistic used for data analysis were frequency distribution, Percentage, Mean and Standard Deviation. The statistics used in hypothesis testing were comparison of mean differences t-test, ANOVA and Scheffe. Other comments and suggestions were in an open-ended questionnaire format.The result revealed: 1) The research found that the most respondents were education level bachelor’s degree, Work experience more than 10 years, Salary under 50,000 bath and operate position level. 2) The average value of importance level of motivation approaches affect the work performance of Kasikorn Bank employees in the Eastern Region 4 was at a high level overall. When considering each aspect, it was found that policy, environment, relationships and work environment, career path, supervisory management, and compensation were also at a high level of importance. 3) There were no differences in personal factors affecting the work motivation of Kasikorn Bank employees in the Eastern Region 4. Classified by study item by item, there was 1 difference: Career path

การศึกษาการค้นคว้าอิสระด้วยตนเองฉบับนี้เป็นการศึกษาแนวทางการสร้างแรงจูงใจในการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงานธนาคารกสิกรไทย พื้นที่ภาคตะวันออก 4 โดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลของพนักงานธนาคารกสิกรไทย พื้นที่ภาคตะวันออก 4 2) เพื่อศึกษาแนวทางการสร้างแรงจูงใจที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของพนักงานธนาคารกสิกรไทย พื้นที่ภาคตะวันออก 4 3) เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของแนวทางการสร้างแรงจูงใจในการทำงานที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของพนักงานธนาคารกสิกรไทย พื้นที่ภาคตะวันออก 4 จำแนกตาม ปัจจัยส่วนบุคคลของพนักงาน กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 120 ราย จำนวนกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิเคราะห์จริง ดำเนินการเก็บข้อมูลระหว่างเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2567 ถึง ตุลาคม พ.ศ. 2567 ใช้การเก็บข้อมูลจากการทำแบบสอบถามอิเล็กทรอนิกส์ และนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติโดยใช้โปรแกรม SPSS กำหนดค่านัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยใช้สถิติค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Means) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) การเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ย (t-test) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (ANOVA) และการวิเคราะห์ความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่ (Scheffe) ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะอื่น ๆ มีลักษณะแบบสอบถามเป็นแบบปลายเปิด (Open-Ended) ผลการวิจัยพบว่า 1) ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ การศึกษาระดับปริญญาตรี อายุในการทำงานตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป อัตราเงินเดือนต่ำกว่า 50,000 บาท ระดับตำแหน่งพนักงานระดับปฎิบัติการ 2) ค่าเฉลี่ยของการให้ระดับความสำคัญของแนวทางการสร้างแรงจูงใจที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของพนักงานธนาคารกสิกรไทย พื้นที่ภาคตะวันออก 4 โดยรวมมีระดับความสำคัญอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านนโยบาย ด้านสภาพแวดล้อม สัมพันธภาพและบรรยากาศในการทำงาน ด้านความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ด้านการบริหารงานของผู้บังคับบัญชา ด้านค่าตอบแทนมีระดับความสำคัญอยู่ในระดับมากเช่นกัน 3) ปัจจัยส่วนบุคคลแตกต่างกันส่งผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของพนักงานธนาคารกสิกรไทย พื้นที่ภาคตะวันออก 4 ไม่แตกต่างกัน จำแนกตามการศึกษาเป็นรายข้อ แตกต่างกัน 1 ข้อ คือ ด้านความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน